โครงการอนุรักษ์สภาพป่าไม้และสัตว์ป่า สวนป่าพระนามาภิไธยภาคใต้ ส่วนที่ ๒ (พื้นที่ส่วนที่ ๒) หรือ “ป่าฮาลา-บาลา” ตั้งอยู่บริเวณเขื่อนบางลาง ช่วงรอยต่อระหว่างจังหวัดยะลา กับจังหวัดนราธิวาส ชายแดนไทย-มาเลเซีย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง ที่ยังคงเหลืออยู่ในประเทศไทย ป่าดิบชื้นแบบมาลายันที่อุดมสมบูรณ์แห่งนี้ มีพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่น สัตว์ป่า และนกหายากนานาชนิด แตกต่างจากป่าดงดิบแห่งอื่น อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองเผ่ามานิ (หรือ ซาไก ซึ่งในภาษามลายู แปลว่า ทาส) ป่าฮาลา-บาลา มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอเบตง อำเภอธารโต และอำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา และ อำเภอศรีสาคร อำเภอสุคิริน อำเภอจะแนะ และอำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส มีเนื้อที่รวม ๘๓๖,๐๐๐ ไร่ เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าประมาณ ๖๘๗,๕๐๐ ไร่ เป็นป่าต้นกำเนิดแม่น้ำรวม ๓ สาย ที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ปัจจุบัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๔๔๕ ได้ปฏิบัติการพิทักษ์รักษาผืนป่าแห่งนี้มิให้ถูกทำลายด้วยการลาดตระเวนเดินเท้า และบินตรวจทางอากาศ ส่วนหน่วยเฉพาะกิจ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๔๔ ทำการลาดตระเวนทางน้ำ เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบทำลายทรัพยากร ธรรมชาติ และส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้วยการจัดชุดปฏิบัติการมัคคุเทศก์นำชมและศึกษาธรรมชาติ ช่วยให้ผืนป่าฮาลา-บาลา แห่งนี้ ยังคงอุดมสมบูรณ์ เป็นพื้นที่ให้ราษฎรได้ศึกษา ได้สัมผัสธรรมชาติของป่าบริสุทธิ์ ที่จะทำให้เกิดจิตสำนึก ในอันที่จะช่วยกันอนุรักษ์ความสมดุลของระบบนิเวศไว้เพื่อคนรุ่นหลังสืบต่อไป
สวนป่าพระนามาภิไธยภาคใต้ (พื้นที่ส่วนที่ ๒) เริ่มดำเนินการในช่วงต้นปี ๒๕๓๗ ซึ่งต่อมา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการฯ ครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ ณ บริเวณป่าสงวนนิคมศรีสาคร อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส และได้มีพระราชดำริแก่อธิบดีกรมป่าไม้ว่า
“… สมควรที่ต้องให้ความรู้ ความเข้าใจ เรื่องหวายที่จะนำไปใช้ประโยชน์ ให้แก่ราษฎร และน่าจะมีการสำรวจหาสมุนไพรชนิดต่าง ๆ นำมาปลูกรวมไว้…”
และเมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๙ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินโดยเรือพระที่นั่งในเขื่อนบางลาง เพื่อทอดพระเนตรสภาพป่าพื้นที่สวนป่า พระนามาภิไธย และทรงเยี่ยมกำลังพลชุดปฏิบัติการพิทักษ์ป่าฮาลา-บาลา กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๔๔ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๔๔๕ ในโอกาสดังกล่าว พระองค์มีรับสั่งกับผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนภาค ๔ ว่า
“…ให้ ตชด. ช่วยกันดูแลผืนป่าแห่งนี้ไว้อย่าให้ถูกทำลาย…”
หลังจากนั้น ยังทรงพระเมตตา เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเจ้าหน้าที่โครงการฯ อีก ๒ ครั้ง ณ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๔๔๕ บริเวณป่าคลองฮาลา ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ครั้งแรก คือ ในวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ และครั้งต่อมา ในวันที่ ๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๓ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงใส่พระทัยและห่วงใยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานสนองพระราชดำริด้วยความมุ่งมั่นมาโดยตลอด
ตำบลเขื่อนบางลาง อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา