สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านป่าคา ตั้งอยู่ที่บ้านป่าคา หมู่ 8 ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร พื้นที่โครงการประมาณ ๑๘,๐๐๐ ไร่ ประกอบด้วย หมู่บ้านป่าคา หมู่บ้านโละโคะ และหมู่บ้านป่าหมาก ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า ผืนป่าตะวันตกที่มีทรัพยากรป่าไม้สมบูรณ์ เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารที่สำคัญหลายสาย
ความสำเร็จตามแนวพระราชดำริของโครงการฯ เกิดขึ้นได้ด้วยความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ปัญหาต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ เริ่มจากราษฎรมีค่าตอบแทนจากการทำงานในโครงการฯ เป็นรายได้เลี้ยงครอบครัว ช่วยให้ไม่มีการบุกรุกทำลายป่า และแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ทั้งยังก่อเกิดจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติ ป่าไม้และสิ่งแวดล้อมด้วย ประสบการณ์ที่ชาวบ้านได้รับจากการลงมือทำงานในโครงการฯ ได้นำไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่ทำกินของตน ส่งผลต่อการประกอบอาชีพของประชาชนที่มีต้นทุนการผลิตลดลง แต่เกิดผลผลิตการเกษตรที่มีคุณภาพและเพียงพอต่อการเป็นแหล่งอาหารและสร้างเสริมรายได้ นอกจากนั้น ความรู้และเทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสมที่ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโครงการฯ ทำให้ผลผลิตมีปริมาณเพียงพอและคุณภาพดี การลดการใช้สารพิษ สารเคมีทางการเกษตร ก็เป็นผลดีต่อเกษตรกรที่ได้รับความปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดี สำหรับการคมนาคมขนส่งที่สะดวก ทำให้การนำสินค้าเกษตรออกไปจำหน่ายทำได้รวดเร็วขึ้น ส่งผลให้ชุมชนเกิดความเจริญ เกิดอาชีพหลากหลายกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต ทั้งสามารถสร้างรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างยั่งยืน
ในอดีต ก่อนที่ชุมชนบ้านป่าคาจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีเช่นในวันนี้ ชาวไทยภูเขาเผ่าม้งและปกาเกอะญอ (กะเหรี่ยง) ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หลักในพื้นที่ได้ยึดอาชีพปลูกมันสำปะหลัง ข้าวโพด ข้าว ผัก และเลี้ยงสัตว์ เช่น วัว และสุกร เป็นต้น โดยเลี้ยงแบบปล่อยอิสระ มีการเคลื่อนย้าย ขยายพื้นที่พักอาศัยและพื้นที่ทำการเกษตรอยู่ตลอดเวลา จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ทำให้ชุมชนขยายไปในพื้นที่ลุ่มน้ำที่ยังคงมีสภาพป่าสมบูรณ์ ซึ่งจำเป็นต้องสงวนรักษาไว้เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารและเป็นทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ อีกทั้งยังมีการใช้สารเคมีเพื่อเพิ่มผลผลิตและปราบศัตรูพืชอย่างไม่เหมาะสมจนปนเปื้อนลงในดินและน้ำ ส่งผล กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ดินเสื่อมโทรม น้ำเป็นพิษ ผู้คนในชุมชนเองก็เจ็บป่วย เนื่องจากได้รับสารพิษสะสมในร่างกาย ถึงแม้จะใช้เคมีเกษตรอย่างมากในการทำเกษตรเชิงเดี่ยว แต่ก็ยังให้ผลผลิตไม่พอเลี้ยงชีพ จนนำมาซึ่งปัญหาแรงงานลักลอบข้ามแดนและปัญหายาเสพติด ที่สร้างความเดือดร้อนทั้งด้านความเป็นอยู่และสุขภาวะของประชาชนเอง
เมื่อ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงรับทราบถึงสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่และการขยายตัวของชุมชน ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และสุขภาวะของประชาชน พระองค์ทรงมีความห่วงใยมาก จึงมี พระราชดำริให้ดำเนินการช่วยเหลือ ต่อมาเมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ราชเลขานุการในพระองค์ จึงได้มีหนังสือถึงกองทัพภาค ๓ ความว่า
“สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชดำริให้ดำเนินงานโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริบ้านป่าคา เพื่อเป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้ โดยมุ่งส่งเสริมด้านการเกษตร ยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ ตลอดจนสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ สิ่งแวดล้อม ให้กับราษฎรชาวไทยภูเขาและหมู่บ้านบริวาร”
โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านป่าคา จึงได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ วันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑ นำไปสู่การจ้างแรงงานราษฎรเพื่อพัฒนาพื้นที่ มีการก่อสร้างเส้นทางขนส่งผลผลิต การวางระบบชลประทานเพื่อการเกษตร และการจ้างงานด้านการเกษตรและปศุสัตว์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันปลูกหญ้าแฝกเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดิน มีการสร้างศูนย์สาธิตการบำรุงดินด้วยปุ๋ยพืชสด และจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้สารอินทรีย์ในการเกษตรเพื่อลดการใช้สารเคมี รวมไปถึงการจัดทำแปลงเรียนรู้การปลูกข้าวแบบขั้นบันได พร้อมกับมอบพันธุ์ข้าวไร่ที่เหมาะสมกับพื้นที่ ตลอดจนได้ส่งเสริมการปลูกกาแฟอาราบิก้า อะโวคาโด พลับ และพืชผักเมืองหนาวอื่น ๆ ด้วย
ด้านการปศุสัตว์ โครงการฯ ได้ส่งเสริมการเลี้ยง สุกรพันธุ์เหมยซาน โดยจัดทำฟาร์มสุกรสาธิต และถ่ายทอดเทคนิคการเลี้ยงแบบ “หมูหลุม” พร้อมกับสนับสนุนพันธุ์สุกร ด้านการประมง ก็ส่งเสริมการเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก ทั้งยังได้ศึกษาการเพาะพันธุ์ปลาตะเพียน และกบ ซึ่งเป็นชนิดพันธุ์ในพื้นที่ได้เป็นผลสำเร็จ
บ้านป่าคา ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร