ชาวบ้านขุนแตะ ที่เคยลำบากแร้นแค้นมาก่อน เมื่อได้รับการส่งเสริมพันธุ์ข้าว ให้ความรู้ และกำหนดช่วงเวลาการปลูกที่เหมาะสม โดยให้ปลูกข้าวปีละครั้ง ซึ่งข้าวที่ปลูกได้ ไม่ได้ปลูกเพื่อขาย แต่เป็นการปลูกเพื่อกินในครัวเรือน ในชุมชน ทุกบ้านจึงมีข้าวกินไม่ขาดแคลน ทำให้ชาวบ้านไม่ต้องเสียเงินเพื่อซื้อข้าวกิน หลังจากนั้นได้ให้ปลูกพืชหลังนา
ฟาร์มตัวอย่างฯ บ้านขุนแตะ ได้จ้างชาวบ้านเข้ามาทำงานด้วย ในการทำงาน นอกจากมีรายได้แล้ว ยังได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับการทำเกษตร การปลูกพืช และการเลี้ยงสัตว์ เพื่อให้รู้จักการวางแผนการผลิตที่เหมาะสมกับความต้องการของตลาด เมื่อชาวบ้านได้นำประสบการณ์กลับไปต่อยอดความคิด แล้วลงมือทำเพิ่มบนที่ดินของตนเอง ผลผลิตที่ได้รับจึงมีคุณภาพดี มีปริมาณมากพอที่จะจำหน่าย โดยฟาร์มตัวอย่างฯ ดำเนินการจัดหาช่องทางการจำหน่ายให้ ด้วยการประสานห้างสรรพสินค้า ตลาดกลางด้านการเกษตร เพื่อรวบรวมผลผลิตส่งไป หรือสนับสนุนให้ชาวบ้านร่วมกันส่งผลผลิตไปยังตลาดใหญ่ เพื่อจำหน่ายถึงผู้ซื้อโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ด้วยการส่งเสริมสนับสนุน ๒ ปัจจัยหลัก คือ อาหาร และ อาชีพ ทำให้ผู้คนที่บ้านขุนแตะในปัจจุบันมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้ที่ดี ไม่มีหนี้สินจากการทำเกษตร และไม่บุกรุกเข้าตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำลำธาร
ย้อนหลังไปเมื่อประมาณ ๒๐ ปีก่อน พื้นที่บ้านขุนแตะ เป็นแหล่งปลูกฝิ่นคุณภาพที่ดีที่สุดในโลก เนื่องจากมีสภาพอากาศ ความชื้น และดินที่เหมาะสม ชาวไทยภูเขาส่วนใหญ่จึงยึดอาชีพปลูกฝิ่นเป็นหลัก นำไปสู่ปัญหายาเสพติด และความมั่นคงของชาติ ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่รัฐปราบปรามฝิ่น ทำให้ชาวบ้านไม่มีอาชีพ สำหรับข้าวที่ปลูกโดยไม่มีพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมกับพื้นที่ ส่งผลให้ข้าวไม่ได้รับน้ำและแสงแดดเพียงพอ ทำให้โตช้า ได้ปริมาณน้อย เมล็ดลีบไม่สมบูรณ์ จึงได้ข้าวไม่พอกินในครัวเรือน ส่วนการปลูกกะหล่ำปลีแบบพืชเชิงเดี่ยวเพื่อส่งขายในเมืองต้องผ่านคนกลาง ซึ่งการขนส่งที่ไกลและผ่านเส้นทางที่คดโค้งลาดชัน มีผลต่อต้นทุนที่สูง แต่ขายได้ในราคาถูก
๒๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๒ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามฟาร์มตัวอย่างฯ บ้านขุนแตะ จังหวัดเชียงใหม่
เมื่อ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรและนักเรียนโรงเรียนบ้านขุนแปะ ตำบลบ้านแตะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๐ ทรงได้รับทราบถึงความลำบากของราษฎรที่บ้านขุนแตะ จึงมีพระราชดำริให้จัดตั้งฟาร์มตัวอย่างขึ้นที่บ้านขุนแตะ หมู่ ๕ ตำบลดอยแก้ว อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยให้ดำเนินงานในลักษณะที่เป็นศูนย์สาธิตและส่งเสริมด้านการเลี้ยงสัตว์ต่างๆ อาทิ ไก่ เป็ด นกกระทา ปลา กบ ผึ้งและแกะ ตลอดจนให้มีการเพาะเห็ด และปลูกไม้ใช้สอย คือ ยูคาลิปตัส และสะเดา ด้วยการจ้างแรงงานราษฎรในหมู่บ้านที่มีฐานะยากจน และจากหมู่บ้านใกล้เคียง มาสร้าง “ธนาคารข้าว” ทั้งนี้ ทรงมอบให้กองทัพบก และกองทัพภาคที่ ๓ เป็นผู้ดำเนินการจัดตั้ง และประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งวางโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค
ปัจจุบัน ฟาร์มตัวอย่างฯ ขุนแตะ ไม่ได้จ้างชาวบ้านจำนวนมากเหมือนในระยะเริ่มต้น ชาวบ้านส่วนใหญ่สมัครใจที่จะออกไปเป็นเกษตรกร ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ ในพื้นที่ของตัวเอง เนื่องจากได้อยู่กับครอบครัวและมีรายได้มากกว่า ฟาร์มตัวอย่างฯ จึงเน้นด้านการส่งเสริมแนวทางการปลูกพืชต่าง ๆ โดยพิจารณาว่า พื้นที่บริเวณใด เหมาะสมสำหรับการปลูกพืชชนิดใด พร้อมกันนั้นก็มีราคาจำหน่ายให้ดูด้วยว่า ในแต่ละช่วงเวลาของการเพาะปลูกมีพืชชนิดใดที่มีราคาดี ควรต้องวางแผนระยะการปลูกอย่างไร ควรต้องดูแลอย่างไร เพื่อให้ประสบความสำเร็จสูงสุด เมื่อราษฎรมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น มีฐานะที่มั่นคง ไม่บุกรุกทำลายป่าแล้ว บ้านขุนแตะ จึงเจริญเป็นชุมชนใหญ่อยู่ท่ามกลางขุนเขา ที่คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างเกื้อกูล ส่งผลให้ป่ามีความ สมบูรณ์ มีธรรมชาติสวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร จากการที่ราษฎรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ป่าจึงไม่ถูกทำลาย ดังพระราชดำรัสใน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่เคยตรัสไว้ เมื่อครั้งเริ่มจัดตั้งฟาร์มขุนแตะว่า “ขาดทุนของฉัน คือกำไรของแผ่นดิน”
บ้านขุนแตะ ตำบลดอยแก้ว อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่