“วัดธาตุประสิทธิ์ บ้านนาหว้า” กลุ่มทอผ้าไหม “กลุ่มแรก”

ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ

             ปัจจุบัน กลุ่มทอผ้าไหมกลุ่มแรกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ โดยใช้ชื่อว่า “วิสาหกิจชุมชนศูนย์หัตถกรรมชุมชนวัดธาตุประสิทธิ์” การทอผ้าไหมที่นาหว้านี้ ได้ดำเนินการตามแนวพระราชดำริ เริ่มจากปี ๒๕๑๕ จนเข้มแข็ง รุ่งเรืองขึ้น ในปี ๒๕๓๙ ที่พระครูศรีวชิรากร (พระมหาเพชร) สุวิชาโน ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุประสิทธิ์ ผลงานของกลุ่มมีคุณภาพสวยงามเป็นที่ยอมรับและมีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ จึงได้รับพระราชทานรางวัลจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นประจำทุกปี ส่งผลให้สมาชิกกลุ่มฯ มีขวัญกำลังใจที่จะทุ่มเทสร้างสรรค์ผลงานอย่างเต็มความสามารถ โดยได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์จำหน่ายสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์จากชาวอำเภอนาหว้า เช่น ผ้าไหม ผ้ามุก ผ้าฝ้าย ผ้ามัดหมี่ ผ้าขาวม้า เครื่องจักสาน และเครื่องดนตรีพื้นบ้านอีสาน เป็นต้น ในแต่ละเดือน มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ มาเยี่ยมเยือนเป็นจำนวนมาก จนวัดธาตุประสิทธิ์ บ้านนาหว้า ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ด้านหัตถกรรม วิถีชีวิต และภูมิปัญญา ที่มีคุณค่าต่อชุมชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง

๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทอดผ้าพระกฐินต้น ณ วัดธาตุประสิทธิ์ ตำบลนาหว้า จังหวัดนครพนม

             สำหรับความเป็นมาของศูนย์หัตถกรรมชุมชนวัดธาตุประสิทธิ์ นั้น เริ่มต้นเมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕ เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วย สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี และสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทอดผ้าพระกฐินต้น ณ วัดธาตุประสิทธิ์ หมู่ที่ ๔ ตำบลนาหว้า อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ในโอกาสดังกล่าวได้มีราษฎร ๖ คน ที่รอรับเสด็จ ทูลเกล้าฯ ถวายผ้าไหมแด่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อทอดพระเนตรเห็นผ้าไหมมีลวดลายสวยงาม และมีความเป็นเอกลักษณ์ พระองค์ทรงพอ พระราชหฤทัย จึงมีพระราชเสาวนีย์ให้จัดตั้งและส่งเสริมกลุ่มทอผ้าไหมของอำเภอนาหว้าให้เป็น “กลุ่มทอผ้าไหมกลุ่มแรก ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” ขึ้นเมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕ และทรงมอบหมายให้ราษฎรที่รอรับเสด็จทั้ง ๖ คน ซึ่งเป็นช่างทอผ้าอยู่แล้ว ให้ทอผ้าไหมเพิ่มขึ้นอีก คนละ ๖ ผืน ต่อมา เมื่อได้ทอดพระเนตรผ้าไหมที่ทอขึ้นใหม่แล้ว พระองค์ได้มีพระราชเสาวนีย์ให้เพิ่มจำนวนผ้าไหมที่ทอขึ้นใหม่ และให้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเป็นประจำ เดือนละหนึ่งครั้ง หรือสองเดือนหนึ่งครั้ง โดยทรงมอบหมายให้ท่านผู้หญิงสุประภาดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ราชเลขานุการในพระองค์เป็นผู้ประสานงาน และออกเยี่ยมกลุ่มช่างที่ทอผ้าไหมเป็นประจำทุกเดือน เพื่อรับทราบปัญหาและความต้องการของประชาชนอย่างใกล้ชิด

             ด้วยพระราชประสงค์ให้ฟื้นฟูการทอผ้าไหม ในช่วงเวลาที่ราษฎรว่างจากการทำนา พระองค์จึงได้ พระราชทานครูช่าง เพื่อจัดการฝึกอบรมสมาชิกกลุ่มทอผ้า เป็นการเพิ่มความรู้เรื่องการทอผ้าไหมให้ได้มาตรฐาน พร้อมทั้งได้พระราชทานอุปกรณ์ในการทอผ้าไหมแก่สมาชิก และทรงรับซื้อผ้าไหมที่สมาชิกทอขึ้นทุกปี โดยการทอผ้าทรงให้เน้นการทอ ลวดลายพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวนาหว้าอย่างแท้จริง ดังเช่น ผ้ามุก เป็นต้น ซึ่งการทอผ้ามุกจัดเป็นงานฝีมือชั้นสูงมาแต่โบราณ และร่วมสมัยกับอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ นับเป็นผ้าชั้นเลิศ ที่เจ้านายชั้นผู้ใหญ่ใช้เป็นอาภรณ์ และเป็นต้นแบบให้ผ้าพื้นบ้านทั้งหลาย ด้วยลวดลายที่มีอัตลักษณ์อันเกิดจากการยกเส้นด้ายยืน และเสริมด้วยด้ายยืนพิเศษ เดินเส้นยกมุกทีละดอก จนเห็นเป็นเลื่อมลายที่นูนเด่นขึ้นจากผืนผ้า แพรวพราวจนดูคล้ายการประดับตกแต่งด้วยเปลือกหอยมุก ซึ่งช่างทอต้องใช้สติ สมาธิ และความเพียรอย่างมาก ผ้ามุก จึงเป็นสินค้าสำคัญของศูนย์หัตถกรรมชุมชนวัดธาตุประสิทธิ์ และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของจังหวัดนครพนม ประจำปี ๒๕๖๒

เส้นทาง : “วัดธาตุประสิทธิ์ บ้านนาหว้า”

วัดธาตุประสิทธิ์ หมู่ที่ ๔ ตำบลนาหว้า อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม