เรือนไม้หลังเก่าของป้าทุ้ม – ป้าไท้ ราษฎรบ้านหนองแข้ ตั้งอยู่เลขที่ ๒๑ หมู่ ๕ ตำบลตองโขบ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร เป็นสถานที่ซึ่งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และราษฎรบ้านหนองแข้ ได้ร่วมกันจัดตั้งขึ้นเป็น พิพิธภัณฑ์บ้านป้าทุ้ม – ป้าไท้ เป็นสถานที่สำคัญที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ สร้างความภาคภูมิใจ และความทรงจำอันงดงามให้คงอยู่เป็นสมบัติของเหล่าช่างทอผ้าในท้องถิ่น และลูกหลานชาวบ้านหนองแข้ เนื่องจากเป็นสถานที่ ที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยือน ถึง ๓ ครั้ง และทุกครั้งที่เสด็จฯ พระองค์ทรงพระเมตตาถามไถ่ถึงทุกข์สุขของราษฎรอย่างใกล้ชิด นับเป็นขวัญและกำลังใจแก่ราษฎรบ้านหนองแข้ มากกว่า ๕๐๐ คน ที่เป็นสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพของบ้านป้าทุ้ม–ป้าไท้ ซึ่งยังคงดำเนินกิจกรรมตามพระราชเสาวนีย์มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่นต่อการสร้างสรรค์ผลงาน เพื่อฟื้นฟูการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมพันธุ์พื้นเมืองของไทย การทอผ้าไหมไทย และการอนุรักษ์ลวดลายโบราณที่เป็นภูมิปัญญาบนผืนผ้า ซึ่งสืบทอดมาหลายชั่วอายุคนไว้ ไม่ให้สูญหายตามพระราชปณิธานในสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
วันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ วันในความทรงจำของราษฎรบ้านหนองแข้ที่ไม่มีวันลืม โดยเฉพาะ “ป้าทุ้ม และ ป้าไท้” เนื่องจากในวันดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินไป ณ โรงเรียนร่มเกล้า ตำบลตองโขบ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร เพื่อทรงเปิดอาคารเรียนซึ่งสร้างขึ้นตามพระราชดำริ ในครั้งนั้น ป้าไท้ ราษฎรบ้านหนองแข้ ได้มาเฝ้ารับเสด็จ โดยสวมใส่ผ้าไหมซึ่งทอขึ้นอย่างประณีตสวยงาม เมื่อสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทอดพระเนตรเห็น พระองค์ทรงสนพระราชหฤทัย จึงรับสั่งถามเพื่อทรงขอซื้อผ้าไหมนั้น ซึ่งป้าไท้ได้กราบทูลพระกรุณาเพื่อทรงทราบว่า ไม่สามารถขายได้ เพราะใส่มาเพียงผืนเดียว พระองค์จึงมีรับสั่งว่า “ผ้าไหมสวยดี ที่บ้านมีอีกไหม อยากให้ทอไว้มาก ๆ เดี๋ยวจะไปซื้อ”
สามปีต่อมา เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๑ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินไปที่บ้านหนองแข้ ถึงชานเรือนบ้านป้าทุ้ม – ป้าไท้ ด้วยพระราชประสงค์เรื่องการซื้อผ้าไหมของป้าทุ้ม – ป้าไท้ ดังที่เคยมีรับสั่งไว้ ปรากฏว่า ด้านล่างของชานเรือนมีราษฎรจำนวนมากมาเฝ้ารับเสด็จ และต่างได้นำผ้าไหมมาทูลเกล้าฯ ถวายพระองค์เป็นจำนวนมาก ในการนี้ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ตอบแทน และทรงไต่ถามทุกข์สุขของราษฎรอยู่เป็นเวลานานจนค่ำมืด
หลังการเสด็จพระราชดำเนินไปที่บ้านหนองแข้ เมื่อปี ๒๕๒๑ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ยังได้เสด็จฯ ไปที่บ้านหนองแข้อีกสองครั้ง โดยในปี ๒๕๒๓ ได้เสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์ไปที่บ้านป้าทุ้ม-ป้าไท้ เพื่อทอดพระเนตรผ้าไหมและเยี่ยมราษฎร ต่อมาในปี ๒๕๒๕ พระองค์ได้เสด็จฯ เพื่อทรงนำตัวอย่างผ้าฉลองพระองค์ ที่เป็นผ้าไหมมัดหมี่ลายต้มหวีสีม่วง ซึ่งตัดเย็บโดยห้องเสื้อ ปิแอร์ บัลแมง มาพระราชทานแก่ป้าไท้ สำหรับใช้เป็นต้นแบบในการทอผ้า ต่อมาด้วยความผูกพันและจงรักภักดี ป้าไท้ได้เชิญฉลองพระองค์ที่ได้รับพระราชทานขึ้นไว้บนหิ้งและบูชาด้วยดอกสะเลเต (มหาหงส์) ตามประเพณีชาวอีสาน
จนถึงปี ๒๕๓๕ บ้านหนองแข้ได้รับการจัดตั้งเป็นหมู่บ้านตามแนวทางโครงการพระราชดำริ และได้รับการส่งเสริมอาชีพการทอผ้าไหม โดยมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จากนั้นเป็นต้นมา บ้านหนองแข้ได้เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปว่า เป็นเลิศในด้านการทอผ้าไหม อันเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดตั้ง กลุ่มทอผ้าไหมบ้านหนองแข้ ขึ้นในปี ๒๕๓๖ ส่งผลให้ชาวบ้านที่นี่มีอาชีพรายได้เสริมที่มั่นคง สามารถส่งลูกหลานเรียนหนังสือและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตลอดจนมีการพัฒนาปรับปรุงการย้อมผ้าใหม่ให้กลายเป็นผ้าไหมย้อมคราม ซึ่งเป็นที่นิยมชาวบ้านหนองแข้ ด้วยสํานึกในพระมหา กรุณาธิคุณ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และราษฎรบ้านหนองแข้ จึงร่วมกันจัดตั้ง บ้านป้าทุ้ม – ป้าไท้ ขึ้นเป็น พิพิธภัณฑ์บ้านป้าทุ้ม-ป้าไท้ เพื่อสืบทอดความภาคภูมิใจและความทรงจําอันงดงาม ให้คงอยู่เป็นสมบัติของลูกหลานชาวบ้านหนองแข้สืบไป ทั้งนี้ ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจในกระบวนการ ผลิตผ้าไหมไทยตั้งแต่การเลี้ยงไหม จนถึงเป็นผ้าไหมแสนสวย เข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. โดยไม่คิดค่าเข้าชม
เลขที่ ๒๑ หมู่ ๕ ตำบลตองโขบ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร